เล่นโทรศัพท์มือถือ ก่อนนอน ทำให้นอนไม่หลับ จริงหรือไม่

เลนส์มือถือก่อนนอน ทำให้นอนไม่หลับ ใช้เลนส์บลูกรองแสงมือถือ ลดอาการนอนไมหลับ

เล่นโทรศัพท์มือถือ ก่อนนอน ทำให้นอนไม่หลับ จริงหรือไม่

                หลายๆ คนจะชอบเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอน เพราะถือว่าเป็นเวลาส่วนตัวที่ไม่มีใครมารบกวน อีกทั้งยังสามารถใช้โทรศัพท์มือถือเป็นนาฬิกาปลุกไปด้วยในตัว แต่อาจจะต้องขอเตือนว่าควรจะลดพฤติกรรมนี้ลง เพราะการเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอน อาจจะทำให้นอนไม่หลับ

เล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอนแล้วนอนไม่หลับเพราะอะไร

                การที่เล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอนแล้วนอนไม่หลับ สาเหตุหลักเป็นเพราะโทรศัพท์มือถือจะปล่อยแสงสีฟ้าออกมา เมื่อดวงตาของเรามองเห็นแสงสีฟ้านี้จะส่งสัญญาณไปที่สมองทำให้เข้าใจว่าขณะนี้ยังเป็นเวลากลางวันอยู่ เราจึงนอนไม่หลับนั่นเอง

                ฮอร์โมนเมลาโทนิน คือฮอร์โมนที่มีหน้าที่ควบคุมนาฬิกาชีวิตในการหลับและตื่น สิ่งที่จะทำให้ฮอร์โมนเมลาโทนินทำงานได้ตามปกติก็คือความมืด เมื่อเราเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอน โทรศัพท์มีแสงออกมาทำลายความมืด โดยเฉพาะแสงสีฟ้าซึ่งเป็นแสงที่มีความสว่างมากที่สุด สมองจึงไม่หลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินออกมา เราจึงนอนไม่หลับ

                นอกจากนี้เมื่อนาฬิกาชีวิตเปลี่ยนแปลง เรายังไม่นอนในตอนดึก สารเลปตินที่เป็นสารที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มก็จะลดลง ทำให้เรารู้สึกหิวในตอนดึก เป็นสาเหตุของโรคอ้วนได้อีก

                นอกจากสมองไม่สั่งให้หลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินที่เป็นสาเหตุของการนอนไม่หลับแล้ว เรื่องราวที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือ ยังอาจทำให้เราว้าวุ่นใจ ครุ่นคิดอยู่กับเรื่องราวเหล่านั้นจนนอนไม่หลับด้วย เช่นเป็นเรื่องของงานที่จะต้องไปทำในวันรุ่งขึ้น เมื่อเราคิดถึงเรื่องงานนั้นจนนอนไม่หลับ พอถึงวันรุ่งขึ้นจริงๆ เราก็จะอ่อนเพลียจนไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ เวลาก่อนนอนจึงควรเป็นเวลาที่เราได้สงบใจและปล่อยวางเรื่องต่างๆ

                เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือไม่ควรเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนเข้านอน โดยอาจวางโทรศัพท์มือถือไว้นอกห้องนอนเพื่อไม่ให้เราหยิบมาดูได้ หรืออาจจะวางไว้ไกลจากเตียงนอน สำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือแทนนาฬิกาปลุกก็คงต้องไปหานาฬิกาปลุกจริงๆ มาใช้แทน

หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอน

                หากเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอนจริงๆ ก็คงจะต้องหาวิธีป้องกันแสงสีฟ้าที่มายับยั้งการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินไม่ให้เข้าสู่ดวงตา ซึ่งก็มีวิธีดังนี้

                – ในโทรศัพท์มือถือทั้ง android และ ios มีแอพพลิเคชั่นลดแสงสีฟ้าให้ดาวน์โหลดฟรีหลายแอพ ให้ดาวน์โหลดแอพเหล่านี้มาใช้งาน รวมถึงติดฟิล์มกรองแสงที่สามารถตัดแสงสีฟ้าออกไป โดยเลือกฟิล์มที่ได้มาตรฐานเพื่อรับรองความสามารถในการกรองแสงได้จริง

                – การสวมแว่นตา ที่มีเลนส์ชนิดที่สามารถตัดแสงสีฟ้า  หรือ เลนส์บลู ( Blue Light ) กรองแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ และ โทรศัพท์มือถือ  เพื่อตัดแสงสีฟ้าออกไป จะช่วยได้อย่างดี คุณจะรู้สึกสบายตา ทันทีตั้งแต่ใส่ครั้งแรก  แต่ควรเลือกเลนส์บลู จากร้านค้า และ ยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดและสามารถกรองแสงและรังสีต่างๆ ออกไปได้จริง

                – หลอดไฟส่องสว่างตามบ้านก็มีแสงสีฟ้าปล่อยออกมาเช่นกัน สามารถลดแสงสีฟ้าได้ด้วยการเปลี่ยนมาใช้หลอดสี Warm white แทน Cool white หรือ Day light

                โดยสามารถใช้วิธีป้องกันแสงสีฟ้าเข้าสู่ดวงตาหลายๆ วิธีพร้อมกันได้ เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด เช่นใส่แว่นที่มีเลนส์ตัดแสงสีฟ้า พร้อมปรับจอโทรศัพท์มือถือให้ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาน้อยลง อยู่ในห้องที่เปลี่ยนหลอดไฟเป็นหลอดแบบ Warm white เป็นต้น

วิธีที่จะช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น

                นอกจากการงดดูโทรศัพท์มือถือก่อนนอนแล้ว สำหรับผู้ที่นอนหลับยาก วิธีที่จะช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นยังมีอีกหลายวิธี เช่น

                – การฟังเพลงนุ่มๆ สบายๆ ก่อนนอน พบว่าสามารถทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นจริง

                – การดื่มนมอุ่นก่อนนอน เพราะในนมมีกรดอะมิโนที่มีชื่อว่า Tryptophan ซึ่งจะช่วยทำให้นอนหลับสบาย, ผ่อนคลายประสาท, คลายเครียด, หายอ่อนเพลีย และมีแคลเซียมสูงอีกด้วย

                – การแช่ตัวในน้ำอุ่นก่อนนอน โดยอาจหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปสัก 2-3 หยด จะทำให้ร่างกายผ่อนคลายและนอนหลับได้ง่าย

                – การลุกออกจากเตียงไปที่อื่นสัก 15 นาที แล้วกลับมานอน จะทำให้นอนหลับได้ง่ายกว่าการอยู่ที่เตียงอย่างเดียว

                – ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และคาเฟอีนก่อนนอน เราอาจคิดว่าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จะทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น แต่ความจริงกลับทำให้นอนไม่หลับ

                – การออกกำลังกายก่อนนอนประมาณ 4-6 ชั่วโมง จะช่วยให้นอนหลับได้ดี

                – การรับประทานกล้วย เพราะในกล้วยมีสารคล้ายยานอนหลับ

                – หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อหนักก่อนนอน โดยเฉพาะอาหารที่ย่อยยากหรือมีรสจัด

                หากปฏิบัติตามวิธีต่างๆ ที่กล่าวมานี้แล้ว เชื่อว่าผู้อ่านคงจะสามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้นแน่นอน อย่าลืมว่าหากเป็นไปได้ก็เริ่มต้นจากการนำโทรศัพท์มือถือออกนอกห้องนอนก่อน แล้วปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับก็น่าจะหายไป

 

อ้างอิง

https://health.kapook.com/view98563.html

http://www.techmoblog.com/what-happens-when-we-look-at-our-cell-phones-before-going-to-sleep/

http://www.amarintv.com/program-update-did-you-know/surenamae040517/33546/

​​​​​​​

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *