ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ควรใส่แว่นถนอมสายตาไหม
ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ ควรใส่แว่นถนอมสายตาไหม
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพร่หลายและมีไว้ใช้งานกันในแทบจะทุกครัวเรือน ตั้งแต่นักเรียนประถมไปจนถึงวัยทำงาน ในหลายๆ อาชีพ ต้องใช้คอมพิวเตอร์ทำงานเป็นเวลานาน เมื่อต้องใช้คอมพิวเตอร์ทำงานเป็นเวลานาน ก็ย่อมหมายถึงการใช้สายตาเป็นเวลานานด้วย ซึ่งการใช้สายตาเป็นเวลานานเกินไปจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพตา อาจทำให้เกิดอาการตาแห้ง ตาพร่ามัว ซึ่งนานไปอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงต่อสุขภาพตาได้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการลดการใช้คอมพิวเตอร์ลงอาจเป็นแนวทางหนึ่งในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อดวงตา แต่หากเลี่ยงไม่ได้ การใช้แว่นตาสำหรับทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ก็อาจเป็นวิธีดูแลสุขภาพดวงตาอีกวิธีหนึ่ง
นอกจากการมองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการตาแห้งหรือตาพร่ามัวแล้ว ทราบหรือไม่ว่าจอคอมพิวเตอร์ยังมีการปล่อยรังสีหลายชนิดออกมา ทั้งที่สามารถมองเห็นและมองไม่เห็นด้วยสายตา ได้แก่ รังสีเอกซ์ รังสียูวี อินฟาเรด ตลอดจนรังสีขนาดความถี่ของคลื่นวิทยุ (radio frequency emission) แต่อยู่ในจำนวนที่น้อยมาก น้อยกว่าระดับเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยที่ตั้งไว้ เช่น รังสีเอกซ์ ตั้งไว้ไม่เกิน 2.5 หน่วย ก็มีเพียง 0.3 หน่วย รังสียูวี ตั้งไว้ไม่เกิน 1,000 หน่วย ก็มีเพียง 0.65 หน่วย รังสีขนาดความถี่ของคลื่นวิทยุให้ไว้ได้ 40,000 หน่วย ก็ตรวจพบเพียง 5,000 หน่วย เป็นต้น จึงอาจกล่าวได้ว่ารังสีที่จอคอมพิวเตอร์ปล่อยออกมายังมีไม่มากพอที่จะเป็นอันตรายต่อดวงตา แต่ก็น่าจะเป็นการดีกว่า หากเราได้สวมแว่นตาป้องกันรังสีต่างๆ เหล่านี้ ไม่ให้สามารถเข้ามาสู่ดวงตาของเราได้เลย โดยเฉพาะเมื่อเราต้องทำงานด้วยคอมพิวเตอร์เป็นเวลาหลายๆ ชั่วโมงต่อวัน
นอกจากนี้ ยังเป็นที่ทราบกันดีว่า จอคอมพิวเตอร์มีการปล่อยแสงสีฟ้า(Blue light) ซึ่งก็คือแสงที่ผสมอยู่ในช่วงแสงสีขาว ที่มนุษย์มองเห็น โดยแสงขาวแบ่งได้ 7 สี คือ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด และ แดง แสงสีฟ้า จะผสมอยู่ในช่วงน้ำเงินกับคราม แสงสีฟ้า คือ คลื่นแสงพลังงานสูง ที่มีความยาวคลื่น 400-500 นาโนเมตร แสงสีฟ้านี้ จะมีปฏิกิริยาทำให้เกิดอนุมูลอิสระภายในดวงตา ซึ่งอาจทำให้เซลล์จอประสาทตาตายได้ หากเซลล์จอประสาทตาตายไปมากๆ อาจทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม มองภาพตรงกลางไม่ชัด ภาพบิดเบี้ยว หรือมีจุดดำตรงกลางภาพที่มองอยู่ ซึ่งหากเป็นโรคนี้แล้วจะไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ การสวมแว่นตาที่สามารถตัดหรือกรองแสงสีฟ้าออกไป น่าจะเป็นอีกวิธีที่ดีในการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตา
การเลือกแว่นตาที่สามารถตัดแสงสีฟ้าเพื่อป้องกันอันตรายต่อดวงตา
แว่นตา ที่สามารถตัดแสงสีฟ้า ป้องกันรังสีได้ จะต้องเป็นแว่นตาที่มีเลนส์แบบพิเศษที่สามารถลดแสงสะท้อน เพิ่มปริมาณแสงส่องผ่านเลนส์ และช่วยกรองแสงต่างๆ ได้ โดยแว่นตาที่มีเลนส์แบบพิเศษที่สามารถใช้กับคอมพิวเตอร์ได้ จะมี 3 ประเภทดังนี้
– เลนส์มัลติโค้ทแบบปกติ จะสามารถตัดแสงสะท้อนจากแสงไฟ และป้องกันรังสี UV ได้ รวมทั้งกรองแสงจากจอคอมพิวเตอร์แบบ CRT (จอรุ่นเก่าที่เป็นตู้ ปัจจุบันไม่ค่อยมีใช้กันแล้ว) วิธีสังเกตเลนส์มัลติโค้ทคือ การนำเลนส์ไปส่องแสงสะท้อนกับหลอดไฟแล้วดูที่หน้าเลนส์ว่าเป็นแสงสะท้อนเป็นสีเขียว หรือสีม่วง หรือสีน้ำเงินหรือเปล่า ถ้าเป็นเลนส์มัลติโค้ทแท้ แสงสะท้อนที่เกิดขึ้นบนเลนส์จะดูนุ่มนวล ไม่มีแฉกของแสงไฟแยงตา สามารถที่จะจ้องไปที่จุดสะท้อนนั้นได้โดยไม่ปวดตา และหยดน้ำแทบจะไม่เกาะผิวเลนส์
– เลนส์แบบเปลี่ยนสีได้ จะเหมือนกับเลนส์มัลติโค้ทปกติทุกประการ เพียงแต่เลนส์จะเปลี่ยนสีได้เมื่ออยู่ในสภาพแสงที่แตกต่างกัน เช่น ในที่แดดจ้าเลนส์จะเป็นสีดำ ในที่ที่มีแสงไฟเลนส์จะเป็นสีอ่อน ส่วนในที่ร่ม เลนส์จะเป็นสีใส เลนส์ประเภทนี้จะสามารถกรองรังสี UVA และ UVB ได้ 100% จึงสามารถป้องกันดวงตาจากแสงและทำให้เกิดริ้วรอยที่ดวงตาช้าลง
– เลนส์แบบตัดแสงสีฟ้า จะเหมือนกับเลนส์มัลติโค้ทปกติทุกประการ แต่มีคุณสมบัติการตัดแสงสีฟ้าเพิ่มเข้ามา ถึงแม้จะตัดแสงสีฟ้าออกไปแล้ว แต่ภาพที่มองเห็นก็จะเป็นเหมือนปกติเหมือนจริง เพียงแต่จะมีติดสีเหลืองมากกว่าปกติเล็กน้อย และเมื่อถ่ายรูปผู้ที่สวมแว่นตาที่สามารถตัดแสงสีฟ้า ก็จะเห็นสีฟ้าสะท้อนออกมาที่เลนส์ด้วย
– เลนส์แบบตัดแสงสีฟ้าที่เปลี่ยนสีได้ ถือว่าเป็นเลนส์ที่รวมสองคุณสมบัติเข้าไว้ด้วยกัน จึงมีราคาแพงเป็นพิเศษ แต่หากมีงบประมาณที่เพียงพอก็น่าจะซื้อไว้ใช้งาน เพราะถือว่าเป็นแว่นตาที่มีอันเดียวจบ สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ทั้งทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ ขับรถ อ่านหนังสือ ออกพื้นที่กลางแจ้ง ฯลฯ
สุดท้ายนี้คือการเลือกเลนส์ ควรจะเลือกจากร้านค้าและยี่ห้อที่ได้มาตรฐาน หากซื้อแว่นตาที่มีเลนส์มัลติโค้ทที่ไม่ได้มาตรฐาน ถึงแม้จะใช้กรองแสงที่ไม่พึงประสงค์ได้บ้าง แต่อายุการใช้งานก็ไม่ยาวนาน เป็นรอยง่าย อีกทั้งภาพที่ได้ก็ยังไม่คมชัดอีกด้วย จึงควรลงทุนใช้แว่นตาที่มีคุณภาพดีเพื่อให้ใช้งานได้นาน เห็นภาพที่คมชัด และสามารถปกป้องสุขภาพดวงตาของคุณ
